장려상_04

Sun Moon University 선문대학교
NUTTHAKOONLAYA CHANRATTANASOPA

두근두근 한국 유학기

การเรียนที่เกาหลีอันน่าตื่นเต้น

ภาษาไทย태국어

สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อเล่นว่าจูน ปัจจุบันอายุ28ปี เรียนจบเอกวิชาภาษาเกาหลี จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานคริทนร์ วิทยาเขตปัตตานี สมัยที่เรียนอยู่ช่วงปีที่ 3 ได้มีโอกาสไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลีใต้จากโครงการของมหาวิทยาลัยซอนมุน เป็นคอร์สที่ให้นักเรียนไปเรียนในโรงเรียนสอนภาษาของมหาวิทยาลัยซอนมุนเป็นระยะเวลา 1 ภาคการศึกษา ในหนึ่งปีทางมหาลัยจะส่งนักเรียนไปแลกเปลี่ยนจำนวน 2ครั้ง ต้นปีและปลายปี ซึ่งดิฉันเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ได้รับเลือกไปเพื่อเรียนแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยซอนมุน
  ตอนที่ประกาศผลออกมาแล้วได้รับเลือกให้ไปแลกเปลี่ยนก็รู้สึกดีใจมาก เพราะคิดว่าตลอดเวลา 3ปีที่เรียนมามันเป็นโอกาสที่ดีที่ดิฉันจะได้นำสิ่งที่เรียนมาไปลองใช้จริงๆสักที ถึงแม้ว่าที่มหาวิทยาลัยจะมีอาจารย์ที่เป็นคนเกาหลี แต่คิดว่านี่คือโอกาศที่เราจะได้ใช้ภาษาเกาหลีได้อย่าง100% โดยที่ไม่มีภาษาไทย การเตรียมตัวไปก็ไม่ยากเพราะว่าทางมหาวิทยาลัยได้เตรียมทำเอกสารไว้ให้เกือบทั้งหมด

“경기가 끝난 후 다 같이 피자를 먹은 우리 14반 여름 팀”
“พวกเราห้อง14ทีมฤดูร้อน นั่งกินพิซซ่าด้วยกันหลังจากจบการแข่งขัน”

เราแค่ตรวจเช็คเอกสารและเอาเอกสารไปยื่นขอวีซ่านักเรียนและก็เดินทางไปตามวันที่กำหนดได้เลย ช่วงที่เดินทางไปถึงเป็นช่วงปลายสิงหาคม เตรียมที่จะเปิดเรียนในช่วงต้นเดือนกันยายน ครั้งแรกหลังจากถึงที่ประเทศเกาหลีใต้ก็ตั้งใจว่าจะเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยด้วยตนเอง หรือเราสามารถขอให้คนมารับได้แต่ต้องออกค่าเดินทางให้ด้วย จึงตัดสินใจเลือกเดินทางไปเองดีกว่า ก่อนที่จะมาก็ได้เตรียมตัวค้นหาสอบถามจากรุ่นพี่ที่เคยไปไว้เรียบร้อยแล้ว คิดว่าการเดินทางไม่ยากเพราะว่าการคมนาคมของเกาหลีขึ้นชื่อว่าสะดวกสบาย เชื่อมต่อกันเกือบทุกสถานี พอลงเครื่องบินมาก็รีบไปซื้อตั๋วรถบัส ตอนที่ได้พูดภาษาเกาหลีกับคนเกาหลีครั้งแรก นอกเหนือจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก แอบกลัวนิดนึงว่าเขาจะฟังรู้เรื่องไหม ถ้าเขาตอบกลับมาเราจะฟังเข้าใจไหม ได้สนทนากับคนขายตั๋วรถครั้งแรก ก็ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี มันทำลายความรู้สึกกลัวออกไปได้หมดเลย เอาจริงๆก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ หลังจากนั่งรถจากสนามบินอินชอน มาจนถึงเมืองอาซันใช้เวลาประมาณ2-3ชม ก็ถึงที่ขนส่งของจังหวัดและก็ต่อรถแท็กซี่เข้ามหาลัยอีกนิดนึง ตอนไปถึงหน้าหอพักก็มีพี่เลี้ยงหอพักคอยต้อนรับ พาเราเข้าที่พัก มีอาจารย์พี่เลี้ยงคอยบอกข้อมูลต่างๆที่เราควรรู้

“마지막 수업 날에 작은 파티를 만들어준 선생님과 친구들”
“วันสุดท้ายของการเรียนพวกเพื่อนและคุณครูช่วยจัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งให้”

หลังจากผ่านไป2-3วันก็เริ่มเข้าสู่การเปิดภาคเรียน มีการปฐมนิเทศน์สำหรับเด็กนนักเรียนแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะ มีนักเรียนมากมายจากหลายประเทศที่มาเรียนแลกเปลี่ยน ตลอดเทอม เราก็จะได้เจอหน้าค่าตากันก็ให้ทำความรู้จักกัน มีเกมให้จับบั้ดดี้กับคนเกาหลีด้วย เป็นช่วงเวลาที่สนุกมาก หลังจากที่เปิดเทอม ก่อนเริ่มเข้าเรียนก็จะมีให้สอบวัดระดับความรู้ของเรา เพื่อแบ่งห้องเรียนกันตามระดับความสามารถ มีระดับต้น กลาง สูง ตอนนั้นสอบได้ระดับกลาง2 ในห้องเรียนมีประมาณ 20กว่าคน มีหลายชาติมากในห้องเรียน แต่หลักๆน่าจะมีญี่ปุ่น จีน เวียดนาม เยอะมาก แถบยุโรปก็มีบ้างนิดหน่อย อาจารย์ที่สอนใจดีมากทุกท่าน ที่นี่จะมีกิจกรรมให้ทำด้วยเยอะมาก ทุกๆวันเกิดเพื่อน ในห้องจะแจกการ์ดคนล่ะใบให้เขียนอวยพรเพื่อน ใครอยากให้ของขวัญก็ซื้อเป็นขนมเล็กๆให้ ดีที่เราพกขนมจากไทยไปเยอะเลยได้เอาให้เป็นของขวัญ อาจารย์ประจำห้องก็จะซื้อเค้กเล็กๆมาเป่าให้ หรือเวลาใครจะเรียนจบคอร์สหรือกลับบ้านก่อนก็จะมีปาร์ตี้อำลาเล็กๆให้ในห้อง

ตอนนั้นได้เรียนอยู่แค่เทอมนึงกับอีก 2 สัปดาห์ก็ต้องกลับก่อน คาบสุดท้ายของการเรียนเพื่อนๆทุกคนก็เขียนการ์ดให้ซื้อเค้กมาให้เป่า รู้สึกประทับใจมาก นอกจากในห้องเรียนก็ยังมีให้เลือกเรียนเสริมหลังจากจบคลาสเรียนปกติ แต่ต้องเสียเงินเพิ่ม เช่น เรียนเทคควันโด เรียนการเขียนตัวจีน เรียนวาดรูปจากพู่กันจีน เป็นต้น คาบเรียนปกติจะเริ่ม 9โมง ยาวถึงบ่ายโมง คาบเรียนพิเศษเริ่มบ่าย2 ถึง 4โมง 1อาทิตย์ เรียนแค่ 2วัน
ทั้งยังมีการจัดกีฬาสีกระชับมิตรภายในให้ด้วย แบ่งเป็น 4ทีมตามฤดูกาลของเกาหลี ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง ก็แบ่งเป็น 2-3ห้องต่อ 1ทีม มีแข่งข้ามสิ่งกีดขวาง แข่งชักเย่อ แข่งกลิ้งลูกบอล เป็นต้น หลังจากแข่งเสร็จก็ประกาศทีมที่ชนะ แล้วก็ไปกินพิซซ่าปิดท้ายพร้อมๆกัน นอกเหนือจากนั้นทางมหาลัยยังมีการจัดพาไปทัศนศึกษาที่อันดงอีกด้วย พาไปกินอาหารขึ้นชื่อที่อันดง นั่นก็คือจิมทักกับปลาซาบะย่าง

ลังจากนั้นก็มีพาเที่ยวชมหมู่บ้านเกาหลีที่อันดง โชคดีที่อากาศเย็นสบายดีก็เลยเดินสบาย ซึ่งช่วงที่ไปเป็นช่วงเข้าฤดูใบไม้ร่วง ลมพัดเย็นสบายเหมือนเปิดแอร์อยู่ตลอดเวลาทำให้เหมาะแก่การเดินเที่ยวเล่นมาก ใครที่อยากมาเกาหลีช่วงฤดูใบไม้ผลิก็เป็นอีกฤดูที่หน้าสนใจ เพราะเกาหลีขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีภูเขาเยอะ เกือบ80%ของประเทศเกาหลีรายล้อมไปด้วยภูเขาและรัฐบาลของเกาหลีก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติมากทำให้มีต้นไม้เยอะ เดินเล่นสองข้างทางตอนที่ต้นแปะก๋วยเปลี่ยนสีแล้ว จะได้ฟิวแบบนางเอกซีรีย์เกาหลีกำลังเดินเล่นกันเลยทีเดียว ยิ่งถ้าขึ้นไปบนภูเขาแล้วมองดูต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีต่างๆ มันสวยงามมากจนอธิบายไม่ถูกต้องมาดูด้วยตาของตนเอง พอหลังจากฤดูใบไม้ร่วงเสร็จก็เข้าสู้ฤดูหนาว ฤดูหนาวคงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลนึงที่เลือกมาเพราะว่าอยากเจอหิมะ หิมะแรกของฉันเกิดขึ้นในเช้าวันนึงช่วงกลางเดือนธันวาคมเข้าไปแล้ว

ลุ้นรออยู่ว่าจะได้ดูหิมะก่อนกลับไทยไหม แต่สุดท้ายฝันก็เป็นจริง ได้เห็นหิมะที่ไม่สามารถหาดูได้ที่ไทย เคยมีความคิดที่อยากจะเอาหิมะใส่ขวดกลับไปให้แม่ดู พอลองทำแล้วมันก็ละลายเสียสะก่อน คิดแล้วก็นึกถึงแม่ ถ้าหากว่าโคโรน่าดีขึ้นก็อยากจะพาแม่ไปดูหิมะด้วยตาของตัวเอง
   วันสุดท้ายก่อนกลับเป็นวันที่ 31 ธันวาคมพอดี ตั้งใจอยู่ต่ออยากเปลี่ยนสถานที่เคาน์ดาวน์ปีใหม่ดู ก็เลยไปที่โซล ตอนนั้นไปนั่งอยู่ที่ชั้น 2 ของร้านกาแฟแห่งหนึ่งแถวชินชน มองลงไปข้างล่างจะเห็นหอนาฬิกา พอใกล้ถึงเวลาคนก็มายืนออกัน พร้อมร้องตะโกนนับถอยหลังกันอย่างครึกครื้น เมื่อถึงเวลาข้ามวันทุกคนก็ทักทายกัน กอดกันบ้าง และต่างก็เดินจากไปหลังจากข้ามวันไปไม่กี่นาที รู้สึกเป็นความประทับใจที่เรียบง่าย และรู้สึกแปลกตาแปลกใจดี ทุกช่วงเวลาที่ผ่านมารู้สึกคุ้มค่ามากกับการตัดสินใจมาเรียนแลกเปลี่ยน ถึงแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั่นๆก็ตาม สุดท้ายแล้วมีอีกหลาย

อย่างที่อยากจะเล่าให้ฟังอีกมากมาย แต่ก็อยากให้มาลองประสบการณ์ด้วยตนเองจะดีกว่า ถ้ามีโอกาสบอกเลยว่าอย่าพลาดที่จะมาเกาหลีอย่างเด็ดขาด

“알록달록 예쁜 옷을 입는 가을 자연속에서”
“ใส่เสื้อสวยๆไปถ่ายรูปกับธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วงหลากสี”

두근두근 한국 유학기

ภาษาเกาหลี 한국어

안녕하세요, 제 이름은 준입니다. 
현재 28살이고 쏭클라대학교 빠따니 캠퍼스에서 인문사회대학 소속된 한국어과를 졸업했습니다. 

제가 3학년이었을 때 선문대학교를 통해 한국으로 교환학생을 갈 기회가 있었습니다. 한국에 1학기 동안 선문대학교 한국어교육원에서 공부할 수 있는 과정이었습니다. 
저희 대학은 일년에 연초와 연말에 교환학생을 2번 보냈습니다. 
저는 그 당시 선문대학교의 교환학생으로 선발된 학생 중 한 명이었습니다.
합격 결과가 나왔을 때 저는 아주 기뻤습니다. 공부한 3년 동안 배운 것을 실제로 활용할 수 있는 좋은 기회라고 생각했습니다.
 
대학에 한국인 선생님이 계셨지만 태국어 없이 한국어만 100% 사용할 수 있는 좋은 기회라고 생각했습니다. 대학에서 거의 모든 서류를 준비해줬기 때문에 그냥 그 서류들만 확인하고 학생비자를 신청하고 정해진 날짜에 한국에 가면 되었습니다. 
그때는 8월 말이었고, 9월 초에 수업이 시작할 예정이었습니다. 
처음 한국에 도착했을 때, 대학교에 직접 가보려고 했습니다. 데리러 올 사람을 요청할 수 있는데 추가 비용이 있어서 그렇게 결정했습니다. 
오기 전에 이미 가 본 선배들에게 다 알아봤으니 어떻게 가야 할지 모두 알고 있었습니다. 
한국의 교통수단은 편리한 것으로 유명하기 때문에 직접 가는 게 어렵지 않다고 생각했습니다. 
거의 모든 역이 연결 되어 있어서 비행기에서 내린 후 빨리 버스표를 사려했습니다. 
처음 한국에 도착해 한국어와 교수님들이 아닌 진짜 한국인과 대화한다는 것이 흥분되었습니다. 
제 한국말을 알아들 수 있을까 말까 걱정했습니다. 
그들이 물으면 내가 제대로 이해하고 답할 수 있을까? 두려웠습니다. 
처음으로 티켓 판매자와 대화를 나눴을 때 잘 성공하자 그 이후 두렵다는 감정이 완전히 사라졌습니다. 사실 생각보다 무섭지 않았습니다. 
인천공항에서 탑승 후 아산 시내까지는 약 2-3시간이 걸렸습니다. 고속버스터미널에 도착해서 택시를 타고 대학까지 조금 더 갔고, 기숙사 앞에 도착하니 기숙사 안내해주시는 분들이 우리들을 맞이하기 위해 기다리고 있었습니다. 
그분들은 우리를 숙소로 데려다 주고 필요한 모든 정보를 알려줬습니다.

며칠 후 학기가 시작되었습니다. 
교환학생을 위한 첫 특별 오리엔테이션이 있었습니다. 태국뿐만 아니라 여러 나라에서 온 많은 교환 학생들이 있었는데 학기 동안 서로를 알아가고 도와주도록 이 날 한국 파트너와 외국인 친구 1명씩을 정하는 게임도 했습니다. 아주 재미있는 시간이었습니다. 

다른 날은 개강 전 수준 테스트를 통해 능력 수준에 따라 교실을 나누었습니다. 
초급, 중급, 고급반 중 저는 중급 2반을 받았고 교실에는 20명 다양한 국가에서 온 학생들이 있었습니다. 그러나 주로 일본, 중국, 베트남이 많이 있었고 유럽은 조금 밖에 없었습니다. 

가르치시는 선생님들 모두 친절하시고 여기에서 할 수 있는 많은 활동들이 있었습니다. 그 중 생일인 친구들에게 축하 메시지를 한글로 써서 주도록 카드를 받았는데 선물하고 싶은 사람에겐 카드와 간식을 사서 줬습니다. 
저는 그때 태국 간식을 많이 가지고 가서 친구들한테 선물로 줬습니다. 
그 때 담임 선생님이 생일을 맞이한 한 학생을 위해 작은 케이크를 선물로 주고 촛불도 껐던 기억도 납니다. 그리고 누군가가 수업을 끝내거나 귀국하면 방에서 작은 파티를 만들었습니다. 
그 당시 저는 한 학기 하고 2주 동안만 공부를 했습니다. 수업이 끝나고 모든 친구들이 케이크를 선물해줬고 카드를 써서 줬습니다. 매우 감동이었습니다. 
또한 한국어 수업 외에도 조금만 비용을 내면 추가 수업을 들을 수 있는 옵션도 있었습니다. 
한국어 수업은 오전 9시부터 오후 1시까지, 태권도, 한자, 동양화 등의 특별반은 오후 2시부터 오후 4시까지 1주일에 이틀만 공부했습니다.


그리고 체육대회도 기억이 납니다. 
한국의 계절인 봄 여름, 가을, 겨울에 따라 4개 팀으로 나눴는데 1팀당 2~3개의 반으로 나뉘었습니다. 
장애물경주, 줄다리기, 공굴리기 등의 시합이 있었는데, 시합이 끝난 후 우승팀을 발표하고 다같이 피자를 먹으러 갔던 기억이 납니다. 

그 외에도 안동으로 수학여행을 갔었는데 안동에서 유명한 찜닭과 고등어 구이를 먹고 안동 하회마을을 구경 했습니다. 
다행히 날씨가 시원해서 걷기가 좋았습니다. 가을이기 때문에 에어컨을 켠 것처럼 바람이 시원해서 놀기에 아주 적합했습니다. 
한국의 가을은 한국에 오고 싶은 사람이라면 누구나 좋아할만한 계절입니다.
 
한국은 국토의 약 80%가 산으로 둘러싸여 있고, 정부가 자연환경에 많은 관심을 기울이고 있어 나무가 많습니다. 

언젠가 색깔이 변한 은행나무 양쪽으로 산책을 했었는데 한국 드라마의 주인공이 된 것처럼 기분이 좋았습니다. 

특히 산에 올라가서 색이 변하는 나무들을 보고 있으면 설명하기 어려울 정도로 아름답습니다. 
이거는 꼭 직접 봐야 합니다.
 
가을이 지나고 한국의 겨울이 되었습니다. 
저는 사실 눈을 보고 싶어서 이 시간을 선택해서 한국에 왔습니다. 
어느 날 아침 첫 눈이 내린 12월 중순을 그 날을 잊지 못합니다. 
태국으로 돌아가기 전에 눈을 볼 수 있을지 매일 매일 기다렸는데, 마침내 그 꿈이 이루어졌기 때문입니다. 태국에서는 결코 눈을 볼 수 없습니다. 
그래서 그때 병에 담긴 눈을 어머니께 가져다 드린다는 생각을 했습니다. 그런데 역시 눈이 바로 녹아버렸습니다. 지금 어머니가 많이 생각납니다. 
코로나가 끝나면 어머니도 한국에 다시 모셔와서 눈을 꼭 보여드리고 싶습니다.


과정은 12월 중순에 끝났고 12월 31일, 귀국을 하루 남겨두고 새해 카운트다운 장소를 바꾸고 싶어서 서울에 갔습니다. 
그때 신촌의 커피숍 2층에 앉아서 아래를 내려다보니 시계탑이 보였습니다. 새해의 시간이 다가오자 사람들이 일어섰고, 카운트다운 외침과 함께 12시가 지나가자마자 모두가 서로 인사하고 포옹하고 몇 분 후에는 자리를 뜨는데 심플한 느낌을 받았습니다. 
그 모습이 신기해 보였습니다. 

교환학생으로 오기로 결정한 모든 순간들이 매우 보람찼습니다. 
짧은 시간이었지만, 여러분에게 해 줄 더 많은 이야기가 있는데 직접 와서 느껴보는 것이 제일 좋을 것 같습니다. 

기회가 된다면 한국에 오는 것을 절대 놓치지 말라고 꼭 추천 드립니다!